Results 1 to 6 of 6

Thread: การหาราคาที่เหมาะสม

  1. #1
    Junior Member
    Join Date
    Jan 2013
    Posts
    24

    การหาราคาที่เหมาะสม

    เรียนถาม การหาราคาที่เหมาะสมของหุ้น ใช้อะไรคำนวนบางครับ

  2. #2
    Administrator
    Join Date
    Sep 2010
    Posts
    1,791
    มีหลายวิธีมากครับ ส่วนใหญ่มักจะคำนวนจากการเติบโตในอนาคต ซึ่งค่านี้ค่อนข้างกำกวมทีเดียวครับ
    เช่น PEG เป็นต้น

  3. #3
    Junior Member
    Join Date
    Jan 2013
    Posts
    24
    ราคาที่เหมาะสมของหุ้นแต่ละตัวเพิ่มในสต๊อกเทคนิคได้ใหมครับ

  4. #4
    ขอเพิ่มเติมน่ะครับ มีหลากหลายวิธีตามที่ แอดมินบอกฮะหลัก ๆ จะมีอยู่สองอย่างใหญ่ ๆ คือ การคำนวนแบบ DCF กับ Multiple ratio ต่าง ๆ
    - อย่างที่แอดมินแนะนำไปจะอยู่ในส่วนของ Multiple ratio ต่าง ๆ เช่น PE PB PS PEG เรโชต่าง ๆ เหล่านี้จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
    เช่น PE ของหุ้น XX ใน Sector YY อยู่ที่ 14 ขนาดที่ PE ของ sector YY อยู่ที่ 20 นักลงทุนอาจจะเอาค่า PE 20 มาคูณกับ EPS ของหุ้น XX เพื่อหา fair value
    ซึ้งเป็นการตั้งสมมุติฐานว่า PE หุ้นนั้นจะวิ่งเข้าหา PE ของ sector หุ้นนั้นอะครับ

    - อีกวิธีเป็นวิธี DCF ตัวนี้จะะมีสมมุติฐานที่ตั้งขึ้นมาเองค่อนข้างหลายตัวแปรขึ้นอยู่กับข้อมูลที่นักลงทุนแต่ล่ะคนจะได้รับทำให้ fair value แตกต่างกันไปครับ

    ผิดผลาดยังไงขออภัยครับ

  5. #5
    Junior Member
    Join Date
    Apr 2013
    Posts
    3
    ส่วนตัวผมใช้ 2 วิธีครับ

    1) เอามูลค่าทางบัญชี BV, ROE, EPS ย้อนหลังสัก 10 ปี มาจับเรียงกันตาม พ.ศ. เพื่อดูว่ามันเติบโตอย่างมั่นคงหรือไม่ สม่ำเสมอหรือเปล่า จากนั้นให้หาค่า ROE เฉลี่ยสิบปีรอไว้
    ยกตัวอย่าง ถ้า ROE เฉลี่ย คือ 15% และมูลค่าทางบัญชีปีล่าสุดคือ 2 บาทต่อหุ้น ดังนั้น มูลค่าทางบัญชีในปีถัดไปที่ยังไม่เกิดขึ้นคือ 2 บาท X 1.15 = 2.3 บาทต่อหุ้น และเอา .15 (หรือ15%) ไปคูณกับมูลค่าทางบัญชีในปีถัดไปที่หาได้ 2.3 บาท ก็จะได้เป็น EPS คาดการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปีเดียวกันเช่นกันคือ 2.3 X .15 = 0.345 บาทต่อหุ้น พอรู้ EPS แล้วก็จบครับ เพราะแค่เอา EPS ไปหารด้วยอัตราผลตอบแทนที่คุณคาดหวัง เช่น คุณอยากได้สัก 10% ก็แค่เอา 0.345/0.1 = 3.45 บาท แสดงว่า ถ้าคุณต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนนี้สัก 10% ห้ามคุณซื้อเกินกว่า 3.45 บาท ถ้าซื้อแพงกว่านี้ ผลตอบแทนคุณก็จะลดๆๆๆ ไป ลดไปอย่างไรก็อย่าให้ต่ำกว่าเงินเฟ้อ หรือผลตอบแทนเทียบกับฝากประจำนะครับ

    2) วิธีที่ 2 ก็คาดการณ์ EPS ในอนาคตโดยดูอัตราการเติบโตเฉลี่ยย้อนหลังเลย เช่น ถ้าพบว่าอัตราการเติบโตตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของ EPS คือ 12% และ EPS ล่าสุดคือ 5 บาท EPS ในปีถัดไปที่ยังไม่เกิดขึ้นก็คือ 5 X 1.12 = 5.6 บาท ก็เข้าสูตรเดิมคือเอา EPS ล่าสุดหารด้วยผลตอบแทนที่ต้องการ ก็จะได้ราคาหุ้นที่ห้ามคุณซื้อแพงกว่านั้นครับ

    หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

  6. #6
    Junior Member
    Join Date
    Apr 2013
    Posts
    3
    ส่วนตัวผมใช้ 2 วิธีครับ

    1) เอามูลค่าทางบัญชี BV, ROE, EPS ย้อนหลังสัก 10 ปี มาจับเรียงกันตาม พ.ศ. เพื่อดูว่ามันเติบโตอย่างมั่นคงหรือไม่ สม่ำเสมอหรือเปล่า จากนั้นให้หาค่า ROE เฉลี่ยสิบปีรอไว้
    ยกตัวอย่าง ถ้า ROE เฉลี่ย คือ 15% และมูลค่าทางบัญชีปีล่าสุดคือ 2 บาทต่อหุ้น ดังนั้น มูลค่าทางบัญชีในปีถัดไปที่ยังไม่เกิดขึ้นคือ 2 บาท X 1.15 = 2.3 บาทต่อหุ้น และเอา .15 (หรือ15%) ไปคูณกับมูลค่าทางบัญชีในปีถัดไปที่หาได้ 2.3 บาท ก็จะได้เป็น EPS คาดการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปีเดียวกันเช่นกันคือ 2.3 X .15 = 0.345 บาทต่อหุ้น พอรู้ EPS แล้วก็จบครับ เพราะแค่เอา EPS ไปหารด้วยอัตราผลตอบแทนที่คุณคาดหวัง เช่น คุณอยากได้สัก 10% ก็แค่เอา 0.345/0.1 = 3.45 บาท แสดงว่า ถ้าคุณต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนนี้สัก 10% ห้ามคุณซื้อเกินกว่า 3.45 บาท ถ้าซื้อแพงกว่านี้ ผลตอบแทนคุณก็จะลดๆๆๆ ไป ลดไปอย่างไรก็อย่าให้ต่ำกว่าเงินเฟ้อ หรือผลตอบแทนเทียบกับฝากประจำนะครับ

    2) วิธีที่ 2 ก็คาดการณ์ EPS ในอนาคตโดยดูอัตราการเติบโตเฉลี่ยย้อนหลังเลย เช่น ถ้าพบว่าอัตราการเติบโตตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของ EPS คือ 12% และ EPS ล่าสุดคือ 5 บาท EPS ในปีถัดไปที่ยังไม่เกิดขึ้นก็คือ 5 X 1.12 = 5.6 บาท ก็เข้าสูตรเดิมคือเอา EPS ล่าสุดหารด้วยผลตอบแทนที่ต้องการ ก็จะได้ราคาหุ้นที่ห้ามคุณซื้อแพงกว่านั้นครับ

    อย่าลืมหมั่นอ่านงบการเงินและ 56-1

    หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •